รู้หรือไม่! ลูกแต่ละวัยต้องการไฟเบอร์ในปริมาณที่ไม่เท่ากัน
หากมีปัญหาลูกท้องผูก ลูกถ่ายไม่ออก ลูกถ่ายยาก ลูกอึแข็ง ขับถ่ายแต่ละทีต้องเบ่งจนหน้าดำหน้าแดง ถึงจะพยายามให้ทานผักผลไม้แล้ว แต่ก็ยังท้องผูก อาจมีสาเหตุมาจากการได้รับไฟเบอร์ไม่เพียงพอ หรือได้รับไฟเบอร์ในปริมาณที่ไม่เหมาะสมกับวัย เลยทำให้เกิดปัญหาท้องผูกเรื้อรังตามมา
การได้รับไฟเบอร์ที่เพียงพอดีอย่างไร ?
- ได้เติมไฟเบอร์ทุกวัน เพื่อป้องกันและรักษาท้องผูก ไฟเบอร์จะกระตุ้นการทำงานของลำไส้ ทำให้ลำไส้ขยับตัวได้เป็นปกติในการขับของเสียออกมา ทำให้ลดปัญหาท้องผูก
- ทำให้อึ๊อ่อนนุ่มขึ้น ไฟเบอร์จะเข้าไปเพิ่มเนื้ออุจจาระและช่วยให้อุจจาระกักเก็บน้ำได้มากขึ้น ถ่ายลื่น จึงทำให้ขับถ่ายได้ง่ายขึ้น
- ทำให้ลำไส้ใหญ่แข็งแรง ไฟเบอร์ช่วยซ่อมแซมเซลล์ในลำไส้ใหญ่ ทำให้เยื่อบุผนังลำไส้แข็งแรง
- ช่วยกระตุ้นการเจริญเติบโตของแบคทีเรียดีที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ปรับสมดุลปริมาณแบคทีเรียดีในลำไส้
- ลดการก่อตัวของแบคทีเรียก่อโรคทางเดินอาหาร ยับยั้งการเติบโตของเชื้อฉวยโอกาสในร่างกาย
- เพิ่มภูมิต้านทานโรค เสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้แข็งแรง เนื่องจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายกว่า 70% อยู่ที่ลำไส้ การที่ระบบขับถ่ายดี แบคทีเรียในลำไส้สมดุล ลำไส้แข็งแรงจึงส่งผลดีต่อระบบภูมิคุ้มกันไปด้วย หากลูกได้รับไฟเบอร์อย่างเพียงพอเหมาะสมกับวัยจะดีต่อสุขภาพในหลายๆด้าน โดยเฉพาะ “ระบบขับถ่ายดี” ส่งผลให้พัฒนาการไม่สะดุด
สูตรคำนวณไฟเบอร์ที่คุณหมอแนะนำ เสริมไฟเบอร์ให้เหมาะสมกับวัยของลูก โดยไฟเบอร์แต่ละวันควรได้รับจากอาหารที่หลากหลาย เช่น ผัก, ผลไม้, นมข้าว, ธัญพืช เป็นต้น
สูตรคำนวณปริมาณไฟเบอร์ให้เหมาะสมกับวัยของลูก
ปริมาณไฟเบอร์ที่ควรได้รับต่อวัน/กรัม = อายุลูก + 5
เช่น ลูกอายุ 3 ขวบ จำนวนไฟเบอร์ที่ต้องการ คือ 3 + 5 = 8 กรัม/วัน
แต่การเชียร์ให้ลูกกินผักผลไม้เป็นเรื่องยาก เด็กๆมักเขี่ยผักไม่ยอมกินผักเป็นถ้วยๆ ทำให้ลูกท้องผูก แต่ปัจจุบันมีวิธีเสริมไฟเบอร์ได้ง่ายๆ หากวันไหนคุณพ่อคุณแม่เห็นว่าลูกน้อยไม่ยอมทานผักเลย ก็สามารถเสริมไฟเบอร์ลงในอาหารและเครื่องดื่มได้ทันที เพียงเท่านี้ลูกน้อยก็ได้ปริมาณไฟเบอร์อย่างเหมาะสม ที่จะส่งผลให้ลูกมีระบบขับถ่ายดี ขับถ่ายเป็นปกติและท้องไม่ผูก
ติดต่อได้ที่
Facebook : FiberMate – ไฟเบอร์เมท
#fibermate #fibermatecrispy #ลูกขี้แข็ง #ท้องผูก #ไม่กินผัก #ถ่ายยาก #คนรักสุขภาพ #ขนมเด็ก